- MarGetting
ความแตกต่างของ NEED WANT DEMAND
มาร์เก็ตติ้ง แปลภาษา 📝
NEED / WANT / DEMAND แตกต่างกันอย่างไร ? ในทางการตลาด
ถ้าดูจากคำแปลแล้ว 3 คำนี้ ค่อนข้างมีความหมายที่เหมือนกัน คือ ความต้องการ
แต่ถ้าเป็นหลักทางการตลาด 3 คำนี้ จะหมายถึง ความต้องการในระดับที่ไม่เท่ากัน ...
โดยปกติ ผู้บริโภคหรือลูกค้า จะมีความต้องการในการซื้อสินค้าหรือบริการ เรียงตามลำดับ ดังนี้ ...

NEED
หมายถึง ความต้องการ(ขั้นพื้นฐาน) หรือความจำเป็นที่จะต้องใช้(บริโภค) ซึ่งเป็น ขั้นแรก ที่ผู้บริโภคเกิดความรู้สึกว่า ต้องการสินค้าหรือบริการ เพื่อมาตอบสนองความต้องการในการใช้ชิวิต เช่น ความต้องการด้านปัจจัยสี่ , ต้องการความปลอดภัย , ต้องการความสะดวกสบาย
WANT
หมายถึง ความต้องการ หรือความอยาก (ส่วนใหญ่ ก็จะมองในด้านอารมณ์ Emotional) ซึ่งหลังจากที่ผู้บริโภค มีความต้องการมาจากขั้น NEED มาแล้ว
เขาจะมาสู่ขั้นนี้ ที่เกิดความรู้สึก อยากได้สินค้าหรือบริการ ที่ต้องการความเจาะจงลายละเอียดมากขึ้น โดยอาศัยปัจจัยทั้งภายในและภายนอก เข้ามาส่งผลต่อความต้องการนั้น ทำให้เกิดความอยากที่แตกต่างกันของแต่ละคน
เช่น บางคนอยากได้มือถือระบบ Andrioid , บางคนอยากได้มือระบบ iOS
DEMAND
หมายถึง ความต้องการซื้อ หรือความต้องการบริโภค อย่างชัดเจน
ซึ่งหลังจากที่ผ่านกระบวนประเมินจากขั้น WANT แล้ว ก็จะมาสู่ความต้องการซื้อจริงๆ แต่ก่อนจะเกิดขั้น Demand จะมี 1 สิ่งที่สำคัญต่อผู้บริโภค คือ Buying Power (หรือ Purchasing Power) หมายถึง อำนาจในการซื้อ นั้นเอง
พูดง่ายๆ คือ เมื่อมีความอยากได้แล้ว ต้องมีเงินหรือกำลังที่จะซื้อด้วย ถึงจะเกิดเป็น DEMAND
เช่น เราต้องการรถยนต์ เพื่อใช้ในการทำงาน การเดินทาง > และมีความฝันว่า อยากได้รถยุโรป > แต่ว่าตอนนี้ เรายังไม่มีกำลังที่จะซื้อ ! (แสดงว่าเกิดแค่ขั้น NEED และ WANT แต่ไม่เกิดเป็น DEMAND ที่ความต้องการซื้อจริงๆ)
หลักทางเศรษฐศาสตร์ เลยต้องใช้คำว่า DEMAND เพราะเป็นตัวเลขที่มีโอกาสที่จะสำเร็จทางการซื้อหรือการบริโภคสินค้านั้นจริงๆ , จะไม่ใช่คำว่า NEED หรือ WANT เพราะมันอาจเป็นตัวเลขที่เกินความเป็นจริงได้
ส่วนตัวอย่าง ที่เกิดขึ้นแบบครบกระบวนการ เช่น
ช่วงนี้อากาศหนาว เราอยากได้เสื้อกันหนาว (มี NEED) >
ประกอบกับทำงานในออฟิต เลยอยากเสื้อกันหนาวที่เรียบๆ แบบ Casual Style สามารถใส่ทำงานได้ (เกิดเป็น WANT) > ดังนั้น จึงตัดสินใจไปซื้อเสื้อกันหนาวที่ UNIQLO เพราะดีไซน์สวย ตามที่เราอยากได้ รวมถึงราคาไม่แพง มีกำลังซื้อได้หลายๆตัว (จบที่ DEMAND) นั่นเอง ...
สุดท้าย มีคำถามให้เราลองวิเคราะห์ ผู้บริโภค สามารถข้ามขั้นตอนมาเกิด WANT และ DEMAND เลยได้ไหม❓ จำเป็นต้องมี NEED ก่อนหรือไม่❓

คำตอบ : ไม่จำเป็น
ขอยกตัวอย่างสินค้า คือ “ ล็อตเตอรรี่ “ เราจะเห็นภาพชัด ถ้าถามว่า บางคนที่ซื้อล็อตเตอรี่ มีความจำเป็นไหม (NEED ไหม) ที่ต้องการสินค้านั้นจริงๆ ?
คำตอบคือ ไม่จำเป็น
บางคนซื้อเพราะเมื่อคืนฝันดี เลยอยากเสี่ยงโชคขำๆ หรือบางคนซื้อเพราะ อยากช่วยเหลือคนขายที่พิการ
นี้แหละจะเห็นว่า บางสินค้าหรือบริการ เราสามารถข้ามมาที่ขั้น WANT และ DEMAND เลยก็ได้นะ
แต่ถ้าสินค้าหรือบริการ ที่มีทั้ง NEED WANT และ DEMAND ก็จะเป็นสินค้าที่มีโอกาสของความต้องการจากผู้บริโภคมากกว่า นั้นเอง เพราะสามารถตอบโจทย์ได้ตั้งแต่ความต้องการพื้นฐานของคน ...